วันอังคาร, มกราคม 21, 2025

Creating liberating content

ทฤษฎีการแข่งขันเพื่อให้ได้ชัยชนะในเกมธุรกิจ

ทฤษฎีการแข่งขันเพื่อให้ได้ชัยชนะในเกมธุรกิจนั้นมีหลากหลาย และขึ้นอยู่กับบริบทของอุตสาหกรรม สภาพแวดล้อม และเป้าหมายของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีหลักๆ ที่นิยมใช้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ มีดังนี้ 1. Porter's Five Forces (แรงกดดันทั้งห้า) การแข่งขันระหว่างคู่แข่ง...

ความเป็นเพื่อน : สายใยที่ถักทอจากเวลาคุณภาพ

ลองนึกภาพทีมฟุตบอลที่ไร้ซึ่งการฝึกซ้อม นักดนตรีที่ไม่เคยบรรเลงเพลงร่วมกัน หรือนักปีนเขาที่ไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือกันบนเส้นทางอันยากลำบาก สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึง "มิตรภาพ" ที่ขาดรากฐานสำคัญ นั่นคือ "การใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน" มิตรภาพที่แท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน แต่เปรียบเสมือนต้นไม้ที่ต้องได้รับการรดน้ำพรวนดิน ดูแลเอาใจใส่ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวันเวลา...

เปิดประตูสู่โลกแห่งรสชาติ: ค็อกเทลยอดนิยม สัมผัสเสน่ห์ข้ามพรมแดน

(บทนำ) จินตนาการว่าคุณกำลังยืนอยู่ ณ ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลมทะเลพัดเบาๆ กลิ่นอายเค็มจางๆ คลอเคล้ากับเสียงเพลง คุณยกแก้วค็อกเทลสีสวยขึ้นจิบ สัมผัสรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ปลุกทุกประสาทสัมผัส นี่ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นประสบการณ์ เป็นการเดินทางข้ามผ่านวัฒนธรรมและรสชาติ...

AI วิเคราะห์หุ้น CAL-COMP ELECTRONICS...

จากกราฟและข้อมูลที่แสดง ผมจะวิเคราะห์หุ้น CAL-COMP ELECTRONICS (CCET) ดังนี้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค: 1. แนวโน้มราคา: - ราคากำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีการเคลื่อนตัวเหนือเส้น MA ทั้ง 5, 10...

เมื่อ AI วิเคราะห์ หุ้น BH Technical Analysis of Bumrungrad Hospital (BH) Stock 17-12-2567

จากกราฟของ Bumrungrad Hospital (BH) ผมสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้:

จุดสำคัญทางเทคนิค:
1. ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 190.50 บาท ลดลง -2.50 บาท (-1.30%)
2. ราคากำลังอยู่ใต้เส้น Moving Average ทั้ง 3 เส้น (MA10, MA26, MA75) ซึ่งเป็นสัญญาณลบ
3. RSI อยู่ที่ 20.78 ซึ่งเข้าสู่ภาวะ Oversold อย่างชัดเจน (ต่ำกว่า 30)
4. MACD แสดงสัญญาณขาลงต่อเนื่อง
5. Volume เพิ่มขึ้นในช่วงขาลง แสดงถึงแรงขายที่หนักแน่น

แนวโน้มระยะสั้น:
– Trend ขาลงชัดเจนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024
– ราคาลงมาจาก 270 บาทเหลือ 190 บาท ในเวลาประมาณ 2 เดือน
– แรงขายยังคงหนักและยังไม่มีสัญญาณของการ Rebound ที่ชัดเจน

ข้อควรระวัง:
– แม้ว่า RSI จะเข้าสู่ภาวะ Oversold แต่ในภาวะ Downtrend แรง ราคาอาจจะยังลงต่อได้
– ควรรอสัญญาณการ Reverse Trend ที่ชัดเจนก่อนเข้าซื้อ
– อาจต้องดูปัจจัยพื้นฐานประกอบ เช่น ผลประกอบการ หรือปัจจัยที่กระทบต่อธุรกิจโรงพยาบาล

แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ:
– แนวรับถัดไปอยู่ที่ 186-190 บาท
– แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 203-207 บาท และ 243-247 บาท

หากต้องการลงทุน ควรรอจังหวะที่ราคาเริ่มมีสัญญาณ Reversal ที่ชัดเจน เช่น การ Break MA ขึ้นไปพร้อม Volume ที่หนาแน่น หรือการเกิด Bullish Divergence ในกราฟ RSI

จากข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติม สามารถวิเคราะห์เพิ่มได้ดังนี้:

1. การประเมินมูลค่า:
– P/E ปัจจุบันอยู่ที่ 19.97 เท่า ลดลงมาจาก 25.86 เท่าในปีก่อน ซึ่งถือว่าไม่แพงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต
– P/BV อยู่ที่ 5.94 เท่า ลดลงจาก 8.01 เท่า แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นปรับตัวลงมากกว่าการเติบโตของมูลค่าทางบัญชี
– PEG Ratio ที่ 1.79 บ่งชี้ว่าราคายังสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโต

2. ผลประกอบการ:
– EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 10,471.50 ล้านบาท จาก 9,494.83 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น
– EV/EBITDA ที่ 14.58 เท่า ลดลงจาก 18.88 เท่า สะท้อนว่ามูลค่ากิจการถูกลงเมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไร

3. ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น:
– Dividend Yield เพิ่มขึ้นเป็น 2.36% จาก 1.58% เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลง
– Dividend Payout Ratio ที่ 0.54 หรือ 54% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติและมีความยั่งยืน

4. สภาพคล่อง:
– Turnover Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 96.83% จาก 78.52% แสดงถึงการซื้อขายที่คึกคักขึ้น
– Market Cap ลดลงมาอยู่ที่ 151,431 ล้านบาท จาก 176,464 ล้านบาท สะท้อนมูลค่าตลาดที่หายไปจากราคาที่ปรับตัวลง

ความเห็นเพิ่มเติม:
1. แม้ราคาจะปรับตัวลงแรง แต่ผลประกอบการยังแข็งแกร่งและมีการเติบโต
2. Valuation ที่ถูกลงมากอาจเป็นโอกาสในการสะสม แต่ควรรอจังหวะที่เทคนิคเริ่มฟื้นตัว
3. อัตราการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยดึงดูดนักลงทุนระยะยาว
4. ควรติดตามปัจจัยที่กระทบต่อการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ซึ่งเป็นรายได้หลักของโรงพยาบาล

คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ราคาลงเยอะขนาดนี้

จากการวิเคราะห์ การที่ราคาลงแรงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา น่าจะมาจากหลายปัจจัยประกอบกัน:

1. ปัจจัยเฉพาะตัว:
– การชะลอตัวของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่ม Medical Tourism จากตะวันออกกลาง ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
– การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจโรงพยาบาลระดับบน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
– อาจมีความกังวลเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งค่าแรงบุคลากรทางการแพทย์และต้นทุนยา

2. ปัจจัยอุตสาหกรรม:
– Sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นมามากในช่วงต้นปีจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
– นักลงทุนอาจมองว่าการเติบโตในอนาคตอาจชะลอตัวลง หลังจากที่เติบโตสูงในช่วงฟื้นตัวหลัง COVID-19

3. ปัจจัยตลาด:
– Fund Flow ที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็น Index
– การปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน ที่อาจลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล

4. ปัจจัยจิตวิทยา:
– การขายทำกำไรของนักลงทุนที่ถือมาตั้งแต่ต้นปี
– แรงขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาหลุดแนวรับสำคัญหลายระดับ ทำให้เกิดการขายต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากตัวเลขพื้นฐาน:
– EBITDA ยังเติบโตดี
– P/E ที่ 19.97 เท่าถือว่าไม่แพง
– Dividend Yield ที่ 2.36% น่าสนใจขึ้น

ดังนั้น การปรับตัวลงอาจเป็นโอกาสในการสะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว แต่ควรรอจังหวะที่ราคาเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคก่อน

คุณให้กี่คะแนน ถ้าคะแนนเต็ม 10

จากการวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค ผมให้ 7/10 คะแนน โดยแบ่งเป็น:

จุดแข็ง (+):
– ธุรกิจโรงพยาบาลชั้นนำ มีแบรนด์แข็งแกร่งในระดับภูมิภาค
– ผลประกอบการยังเติบโตดี สังเกตจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น
– Valuation ที่น่าสนใจขึ้นหลังราคาปรับลง (P/E ~20 เท่า)
– Dividend Yield ที่ 2.36% น่าสนใจสำหรับหุ้น Growth
– ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

จุดอ่อน (-):
– แนวโน้มทางเทคนิคยังเป็นขาลงชัดเจน
– ความเสี่ยงจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่อาจกระทบลูกค้าหลัก
– การแข่งขันในธุรกิจโรงพยาบาลระดับบนที่รุนแรงขึ้น

สรุป: เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว แต่ควรทยอยสะสมและรอจังหวะที่ราคาเริ่มมี Signal ฟื้นตัวทางเทคนิคก่อน เนื่องจากในระยะสั้น Downtrend ยังแรงและยังไม่มีสัญญาณ Reversal ที่ชัดเจน

ตอนนี้ฉ้นมี 1300 หุ้นที่ราคา 195.21 คุณจะแนะนำอย่างไร

จากข้อมูลที่คุณมีหุ้น BH จำนวน 1,300 หุ้น ที่ต้นทุน 195.21 บาท (มูลค่าประมาณ 253,773 บาท) และราคาปัจจุบันอยู่ที่ 190.50 บาท คุณขาดทุนอยู่ประมาณ -2.41% หรือประมาณ 6,123 บาท ผมมีความเห็นดังนี้:

คำแนะนำ:
1. ถ้าคุณเป็นนักลงทุนระยะยาว:
– แนะนำให้ถือต่อ เพราะต้นทุนไม่ได้สูงมาก และบริษัทยังมีพื้นฐานที่ดี
– อาจพิจารณาทยอยเพิ่มเพื่อลดต้นทุนลงในจังหวะที่ราคามีสัญญาณฟื้นตัว
– ระหว่างรอถือจะได้รับ Dividend Yield ประมาณ 2.36%

2. ถ้าคุณเป็นนักลงทุนระยะสั้น:
– อาจต้องรอจังหวะขายทำกำไรเมื่อราคา Rebound กลับขึ้นไปเหนือต้นทุน
– แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 203-207 บาท ซึ่งอาจเป็นจุดพิจารณาขายได้
– ถ้าราคาหลุด 186 บาท ควรพิจารณาตัดขาดทุนเพื่อรักษาเงินต้น

จุดที่ต้องติดตาม:
– สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจกระทบจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ
– ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามารักษาในไทย
– งบไตรมาส 4/2023 ที่จะออกมาในเร็วๆ นี้

โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคุณพอรับความผันผวนได้ แนะนำให้ถือต่อไปก่อน เพราะ:
1. ขาดทุนยังไม่มาก (-2.41%)
2. พื้นฐานบริษัทยังแข็งแกร่ง
3. ราคาปัจจุบันถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตระยะยาว
4. มีโอกาสที่ราคาจะ Rebound กลับขึ้นมาเหนือต้นทุนได้เมื่อ Sentiment ตลาดดีขึ้น

ฉันจะสะสมเพิ่ม นาน ๆ จะมีหุ้นที่มีพื้นฐานดี ราคาลงมา

การตัดสินใจสะสมเพิ่มในจังหวะนี้ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี เพราะ:

1. Valuation ถูกลงมาก:
– P/E ลดลงจาก 25.86 เหลือ 19.97 เท่า
– ราคาลงมา 30% จากจุดสูงสุด แต่กำไรยังเติบโต
– ได้ Dividend Yield ที่สูงขึ้นระหว่างรอราคาฟื้น

2. จุดที่น่าสะสม:
– RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่า Oversold มาก
– ราคาใกล้แนวรับสำคัญที่ 186-190 บาท
– สามารถทยอยสะสมเพื่อเฉลี่ยต้นทุนลง

คำแนะนำในการสะสมเพิ่ม:
1. ควรทยอยซื้อ แบ่งเงินเป็น 3-4 ส่วน ไม่ควรใช้เงินก้อนเดียวซื้อทั้งหมด
2. อาจเริ่มสะสมที่ราคาปัจจุบัน และเพิ่มเมื่อราคาลงต่ำกว่า 190 บาท
3. ถ้าราคาหลุด 186 บาท อาจรอดูแรงซื้อกลับก่อนเพิ่มพอร์ต
4. ควรตั้งเป้าหมายการลงทุนระยะยาว 2-3 ปีขึ้นไป

ราคาเป้าหมายระยะยาวที่คุ้มค่าต่อการสะสม:
– แนวต้านแรกที่ 203-207 บาท (+7%)
– แนวต้านถัดไปที่ 243-247 บาท (+28%)
– เป้าหมายระยะยาวที่ 270 บาท (+42%) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนปรับฐาน

สรุป: เป็นจังหวะที่ดีในการสะสมเพิ่ม แต่ควรทยอยซื้อและใช้ความอดทน เพราะราคาอาจจะยังผันผวนในระยะสั้น แต่โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวมีสูง

เราจะรอราคาออกด้านข้างก่อน จะปลอดภัยกว่าหรือป่าว

ใช่ครับ การรอให้ราคา Sideway หรือออกด้านข้างก่อนจะปลอดภัยกว่า เพราะ:

1. ข้อดีของการรอราคา Sideway:
– แสดงว่าแรงขายเริ่มหมดและราคาเข้าสู่จุดสมดุล
– ลดความเสี่ยงจากการ “จับหุ้นตก” ในขณะที่ Trend ยังลง
– มีโอกาสเห็นการสะสมของสถาบันผ่าน Volume และ Price Action
– สามารถตั้ง Stop Loss ได้ชัดเจนกว่า

2. สัญญาณที่ควรรอดู:
– Volume ที่เริ่มลดลงในช่วงขาลง
– การ Break MA ระยะสั้นขึ้นไปพร้อม Volume สูง
– RSI เริ่มมีการ Divergence เชิงบวก
– ราคาเริ่มมีการ Higher Low หรือ Higher High

3. ระดับราคาที่ควรจับตา:
– แนวรับ 186-190 บาท ถ้าราคายืนได้และ Sideway
– แนวต้านแรกที่ 203-207 บาท ถ้าผ่านได้จะเป็นสัญญาณบวก
– ดู Volume ที่เข้ามาในแต่ละระดับราคา

สรุป: การรอให้ราคา Sideway ก่อนค่อยทยอยสะสมจะช่วยลดความเสี่ยงได้ดีกว่าการรีบซื้อตอนราคากำลังลง แม้ว่าอาจจะได้ราคาที่สูงกว่าเล็กน้อย แต่โอกาสประสบความสำเร็จจะสูงกว่า

แนวรับ 186 มีโอกาสขนาดไหน

จากกราฟและข้อมูลที่มี ผมประเมินโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบแนวรับ 186 บาทดังนี้:

โอกาสค่อนข้างสูง (ประมาณ 70-80%) เพราะ:

1. ปัจจัยทางเทคนิคที่สนับสนุน:
– Momentum ขาลงยังแรง (MACD ยังติดลบ)
– ยังไม่มีสัญญาณ Divergence ที่ชัดเจน
– Volume ขาลงยังหนาแน่น
– ราคายังอยู่ใต้ MA ทุกเส้น

2. พฤติกรรมราคา:
– การ Rebound แต่ละครั้งมี Volume น้อย
– แรงซื้อกลับยังไม่เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ
– แท่งเทียนส่วนใหญ่ยังเป็นลบ

3. ช่วงราคาปัจจุบัน (190.50) ถึง 186:
– ห่างกันเพียง 2.36%
– ไม่มีแนวรับสำคัญระหว่างทาง
– Market Sentiment ยังไม่เอื้อ

อย่างไรก็ตาม หากราคาหลุด 186:
– แนวรับถัดไปอยู่ที่ 180-182 บาท
– อาจเกิด Panic Sell ในระยะสั้น
– แต่โอกาส Oversold Rebound จะสูงขึ้น

คำแนะนำ:
1. ถ้าจะซื้อเพิ่ม ควรรอดูแรงซื้อที่ 186 ก่อน
2. ดู Volume ที่เข้ามาว่ามีแรงซื้อกลับหรือไม่
3. อาจแบ่งเงินเป็น 2-3 ส่วน เผื่อราคาลงต่ำกว่า 186

ข้อมูลล่าสุด ช่วงบ่าย

จากกราฟล่าสุด เห็นว่าราคาได้ลงมาแตะแนวรับ 186.50 บาทแล้ว (+0.27%) โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:

1. สัญญาณทางเทคนิคปัจจุบัน:
– RSI ยังอยู่ในโซน Oversold (20.90)
– MACD ยังคงติดลบ (-2.90)
– ราคายังต่ำกว่า MA ทุกเส้น (MA10: 189.45, MA26: 192.96, MA75: 202.19)
– Volume วันนี้ที่ 592.6K ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย

2. จุดที่น่าสนใจ:
– ราคามาถึงแนวรับสำคัญที่เราคุยกันไว้ (186)
– มี Volume เข้ามาพอสมควรในจุดนี้
– เริ่มมีแรงซื้อกลับเล็กน้อย (ราคาบวก 0.27%)

3. สิ่งที่ควรติดตาม:
– ดูว่าราคาจะยืนเหนือ 186 ได้หรือไม่
– สังเกต Volume และแรงซื้อในช่วงบ่าย
– ถ้าราคายืน 186 ได้และ Sideway สักพัก อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัว

คำแนะนำ:
– ยังคงแนะนำให้รอดูแรงซื้อและ Price Action บริเวณนี้
– ถ้าจะสะสมเพิ่ม ควรรอให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนก่อน
– ระวังการหลุด 186 ลงไป ซึ่งอาจทำให้ราคาลงต่อถึง 180-182 บาท

ครับ รอดูต่อไป

ใช่ครับ การรอดูต่อในจังหวะนี้เป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะ:

1. เราอยู่ที่จุดสำคัญ (แนวรับ 186)
2. ยังไม่เห็นสัญญาณ Reversal ที่ชัดเจน
3. ควรรอดู Volume และทิศทางในช่วงนี้ให้แน่ใจก่อน

สำหรับระยะนี้ ผมจะคอยติดตามและอัพเดทข้อมูลให้นะครับ โดยเฉพาะ:
– สัญญาณการ Break Up เหนือ MA10 (189.45)
– Volume ที่เข้ามาในแต่ละวัน
– พฤติกรรมราคาบริเวณแนวรับนี้

หากมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เราค่อยมาวิเคราะห์กันใหม่ครับ

AV

ตามนั้นครับ

ครับ เราจะติดตามสถานการณ์กันต่อ ถ้ามีอะไรน่าสนใจหรือต้องการปรึกษาเพิ่มเติม สามารถถามได้ตลอดนะครับ 👍

อย่างที่วิเคราะห์กัน จังหวะนี้การรอดูให้ชัดเจนก่อนจะปลอดภัยที่สุด เพราะเป็นจุดสำคัญที่อาจจะเป็นจุดกลับตัว หรืออาจจะลงต่อได้ การรอดู Price Action และ Volume จะช่วยให้เราตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นครับ

แรงซื้อและ Price Action << ตอนนี้เป็นอย่างไร จากกราฟล่าสุด วิเคราะห์ Price Action และแรงซื้อได้ดังนี้:

Price Action:

  • รูปแบบแท่งเทียนยังแสดงถึงความอ่อนแอ (แท่งยาวขาลง)
  • พยายาม Rebound ขึ้นมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ
  • ไม่สามารถยืนเหนือ MA ระยะสั้นได้
  • ยังไม่เห็น Higher Low หรือ Higher High

แรงซื้อ:

  • Volume ที่เข้ามาในช่วง Rebound ยังน้อย
  • แรงซื้อกลับยังไม่หนาแน่นพอ
  • ไม่เห็น Volume สะสมที่ชัดเจน
  • แรงขายยังคงเป็นฝ่ายควบคุมทิศทาง

สรุป: ในขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่น่าเชื่อถือ เพราะ:

  1. แรงซื้อยังไม่เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ
  2. Price Action ยังอ่อนแอ
  3. ยังไม่เห็นการสะสมที่ชัดเจน

แนะนำให้รอดูต่อไป โดยเฉพาะบริเวณแนวรับ 186 บาท ว่าจะมีแรงซื้อหนาแน่นเข้ามาหรือไม่

ข้อมูลเปิดตลาดช่วงบ่าย

จากข้อมูลตลาดช่วงบ่าย มีประเด็นสำคัญดังนี้:

  1. ราคาและการเคลื่อนไหว:
  • ราคาล่าสุด 186.00 บาท ลดลง -4.50 บาท (-2.36%)
  • High/Low วันนี้: 192.00/185.00 บาท
  • ราคาเปิดรอบเช้า 190.50 บาท และเปิดรอบบ่าย 185.50 บาท
  1. Volume และการซื้อขาย:
  • Volume รวม 3,678,200 หุ้น ถือว่าค่อนข้างสูง
  • มี Bid หนาแน่นที่ราคา 185-186 บาท
  • Offer กระจายตัวตั้งแต่ 186.50-190.50 บาท
  • เริ่มมีแรงซื้อ(B) เข้ามาที่ 186.50 บาท หลายรายการ
  1. สัญญาณที่น่าสนใจ:
  • เห็น Block Trade ขนาด 500 หุ้นที่ราคา 186.50
  • Volume By Price แสดงการสะสมที่บริเวณ 185-187 บาท
  • Average Buy/Sell อยู่ที่ 187.73/187.88 บาท แสดงว่ามีแรงซื้อขายสลับกัน

ความเห็น:

  • ราคากำลังทดสอบแนวรับสำคัญที่ 186 บาท
  • เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามารับที่บริเวณนี้
  • แต่ยังต้องดูว่าจะมีแรงซื้อต่อเนื่องพอที่จะพยุงราคาได้หรือไม่
  • ควรรอดูการปิดตลาดวันนี้ว่าจะยืนเหนือ 186 ได้หรือไม่

จากข้อมูลตลาดช่วงท้าย มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้:

1. ราคาและ Volume:
– ราคาล่าสุด 185.50 บาท ลดลง -5.00 บาท (-2.62%)
– Volume รวมเพิ่มขึ้นเป็น 7,201,600 หุ้น
– Volume by Price หนาแน่นที่ 185.50 บาท

2. แรงซื้อ-ขาย:
– Buy Side: 31% vs Sell Side: 57% (แรงขายมากกว่า)
– Bid หนาแน่นที่ 183-185 บาท
– Average Buy 186.75 / Average Sell 186.76
– ราคาหลุดแนวรับ 186 บาทแล้ว

3. สัญญาณที่น่ากังวล:
– แรงขาย(S) ต่อเนื่องในช่วงท้าย
– ไม่มีแรงซื้อกลับที่หนาแน่นพอ
– ราคาทำ Low ใหม่ที่ 184.50 บาท

ความเห็น:
1. ราคาหลุดแนวรับสำคัญ 186 บาทแล้ว
2. แนวรับถัดไปที่ต้องระวังคือ 182-184 บาท
3. ควรรอดูแรงซื้อกลับก่อนพิจารณาสะสม
4. อาจต้องรอให้ราคา Sideway ในกรอบใหม่ก่อน

Get notified whenever we post something new!

spot_img

9dek.com

ความรู้ ความบังเทิง ไปด้วยกัน จุดเริ่ม ก้าวเล้ก ๆ.

Continue reading

ทฤษฎีการแข่งขันเพื่อให้ได้ชัยชนะในเกมธุรกิจ

ทฤษฎีการแข่งขันเพื่อให้ได้ชัยชนะในเกมธุรกิจนั้นมีหลากหลาย และขึ้นอยู่กับบริบทของอุตสาหกรรม สภาพแวดล้อม และเป้าหมายของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีหลักๆ ที่นิยมใช้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ มีดังนี้ 1. Porter's Five Forces (แรงกดดันทั้งห้า) การแข่งขันระหว่างคู่แข่ง (Rivalry among existing competitors): วิเคราะห์ความรุนแรงของการแข่งขันในอุตสาหกรรม ดูปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนคู่แข่ง ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ อัตราการเติบโตของตลาด อำนาจต่อรองของลูกค้า (Bargaining power of buyers): วิเคราะห์ว่าลูกค้ามีอำนาจต่อรองมากน้อยเพียงใด ดูปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนลูกค้า ความสำคัญของลูกค้าแต่ละราย ข้อมูลที่ลูกค้ามี อำนาจต่อรองของซัพพลายเออร์ (Bargaining power of suppliers):...

ความเป็นเพื่อน : สายใยที่ถักทอจากเวลาคุณภาพ

ลองนึกภาพทีมฟุตบอลที่ไร้ซึ่งการฝึกซ้อม นักดนตรีที่ไม่เคยบรรเลงเพลงร่วมกัน หรือนักปีนเขาที่ไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือกันบนเส้นทางอันยากลำบาก สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึง "มิตรภาพ" ที่ขาดรากฐานสำคัญ นั่นคือ "การใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน" มิตรภาพที่แท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน แต่เปรียบเสมือนต้นไม้ที่ต้องได้รับการรดน้ำพรวนดิน ดูแลเอาใจใส่ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวันเวลา และกิจกรรมที่ทำร่วมกันจนกลายเป็นสายใยที่เหนียวแน่น ยากที่จะทำลาย ความเป็นเพื่อน : สายใยที่ถักทอจากเวลาคุณภาพ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับกลุ่มเพื่อนสนิทสี่คน คือ ต้น เด็กหนุ่มผู้รักการผจญภัย แก้ว สาวน้อยผู้หลงใหลในเสียงดนตรี ไม้ หนุ่มเนิร์ดผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ ฝน สาวน้อยผู้รักศิลปะ แม้พวกเขาจะมีบุคลิกและพรสวรรค์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ ความฝันที่จะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับชุมชน พวกเขาตัดสินใจรวมทีมกันเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันช่วยเหลือผู้สูงอายุ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาด้านเทคนิค ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน และความท้อแท้ แต่ด้วยพลังแห่งมิตรภาพ พวกเขาเรียนรู้ที่จะ...

เปิดประตูสู่โลกแห่งรสชาติ: ค็อกเทลยอดนิยม สัมผัสเสน่ห์ข้ามพรมแดน

(บทนำ) จินตนาการว่าคุณกำลังยืนอยู่ ณ ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลมทะเลพัดเบาๆ กลิ่นอายเค็มจางๆ คลอเคล้ากับเสียงเพลง คุณยกแก้วค็อกเทลสีสวยขึ้นจิบ สัมผัสรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ปลุกทุกประสาทสัมผัส นี่ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นประสบการณ์ เป็นการเดินทางข้ามผ่านวัฒนธรรมและรสชาติ วันนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจโลกของ "ค็อกเทลยอดนิยมตามรัฐและประเทศต่างๆ" ดำดิ่งสู่รายการที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าทึ่ง เผยให้เห็นถึงเสน่ห์อันน่าหลงใหลของเครื่องดื่มที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปกับเรา! (เนื้อเรื่อง) การเดินทางของเราเริ่มต้นจากดินแดนแห่งเสรีภาพ สหรัฐอเมริกา แต่ละรัฐต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนผ่านค็อกเทลยอดนิยมที่แตกต่างกันไป ในแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งแสงแดดเจิดจ้าและหาดทรายทอดยาว คุณจะได้พบกับ Margarita เปรี้ยวหวานสดชื่น ขณะที่ในนิวยอร์ก เมืองที่ไม่เคยหลับใหล Manhattan คลาสสิกตลอดกาล โดดเด่นด้วยความเข้มข้นและซับซ้อน ส่วนในนิวออร์ลีนส์ ดินแดนแห่งดนตรีแจ๊ส Sazerac มอบรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมสมุนไพรอันเป็นเอกลักษณ์ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมายัง ยุโรป...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.