Become a member

Get the best offers and updates relating to Liberty Case News.

― Advertisement ―

spot_img

การเป็นโสดอย่างมีความสุข รีวิวหนังสือ “Single On Purpose” โดย John Kim

รีวิวหนังสือ "Single On Purpose" โดย John Kim Single On Purpose เป็นหนังสือที่เขียนโดย John Kim เกี่ยวกับการเป็นโสดอย่างมีความสุขและเติมเต็ม โดยไม่ต้องกดดันตัวเองจากสังคม หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ส่วนแรก พูดถึงความเชื่อและค่านิยมเกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบดั้งเดิมที่มักกดดันให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาต้องมีคู่รักเพื่อมีความสุข Kim อธิบายว่าความเชื่อเหล่านี้เป็นอย่างไรที่ผิดพลาดและเป็นอันตราย และทำไมการเป็นโสดจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับบางคน ส่วนที่สอง มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตนเองในขณะที่เป็นโสด Kim ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการสร้างความมั่นใจในตนเอง...
หน้าแรกPublic Opinionคนเก่งนั้นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า ในสายตาของคนโง่

คนเก่งนั้นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า ในสายตาของคนโง่

“The thing about smart people is that they seem like crazy people to dumb people.”

 Stephen Hawking, Unnatural Acts: Critical Thinking, Skepticism, and Science Exposed!

 

 

ประโยค “คนเก่งนั้นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า ในสายตาของคนโง่” สื่อถึงมุมมองที่อาจเกิดขึ้นได้หลายแง่มุม ดังนี้

1. ความอิจฉาริษยา: คนโง่บางคนอาจรู้สึกอิจฉาคนเก่ง จึงพยายามลดทอนคุณค่าของคนเก่งลง เปรียบเสมือนคนบ้า เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกด้อยค่าของตัวเอง

2. ความไม่เข้าใจ: คนโง่อาจไม่เข้าใจวิธีคิดหรือการกระทำของคนเก่ง ที่อาจแตกต่างจากคนทั่วไป มองว่าแปลกประหลาด ไร้เหตุผล คล้ายคลึงกับคนบ้า

3. ความกลัว: คนโง่อาจรู้สึกกลัวต่อความสามารถของคนเก่ง กลัวว่าคนเก่งจะมาแทนที่หรือแย่งชิงสิ่งต่างๆ ไปจากพวกเขา จึงมองคนเก่งเป็นภัยคุกคาม เปรียบเสมือนคนบ้าที่ควบคุมไม่ได้

4. มุมมองที่จำกัด: คนโง่อาจมีมุมมองที่จำกัด มองโลกแคบๆ ไม่สามารถมองเห็นศักยภาพและคุณค่าของคนเก่ง มองว่าสิ่งที่คนเก่งทำนั้นไร้สาระ ไร้ประโยชน์ เปรียบเสมือนการเพ้อฝันของคนบ้า

5. กลไกป้องกัน: คนโง่อาจใช้คำพูดนี้เป็นกลไกป้องกันตนเอง เพื่อปกปิดความไม่รู้และความด้อยของตัวเอง โดยการลดทอนคุณค่าของคนเก่ง เปรียบเสมือนคนบ้า เพื่อรักษาความมั่นใจในตนเอง

6. สะท้อนสังคม: ประโยคนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในสังคม ที่คนเก่งอาจถูกกีดกันหรือถูกมองด้วยความแปลกแยกจากคนโง่ เผยให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างคนที่มีความรู้และคนด้อยโอกาส

อย่างไรก็ตาม ประโยคนี้เป็นเพียงมุมมองจากคนโง่ ไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป คนเก่งย่อมมีคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้มากกว่าคนโง่

สรุป: มีหลายแง่มุมที่อธิบายว่าทำไมคนถึงคิดว่า “คนเก่งนั้นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า ในสายตาของคนโง่” สาเหตุหลักๆ มาจากความอิจฉาริษยา ความไม่เข้าใจ ความกลัว มุมมองที่จำกัด และกลไกป้องกัน ประโยคนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในสังคมที่คนเก่งอาจถูกกีดกันหรือถูกมองด้วยความแปลกแยกจากคนโง่

มีหลายสาเหตุที่คนบางคนอาจคิดว่า “คนเก่งนั้นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า ในสายตาของคนโง่” ดังนี้

1. ความอิจฉา: คนโง่อาจรู้สึกอิจฉาคนเก่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

2. ความกลัว: คนโง่อาจรู้สึกกลัวคนเก่ง เพราะรู้สึกว่าคนเก่งนั้นฉลาดกว่าและอาจเอาเปรียบตนเองได้

3. ความไม่เข้าใจ: คนโง่อาจไม่เข้าใจวิธีคิดหรือวิธีการทำงานของคนเก่ง

4. ความคิดที่จำกัด: คนโง่อาจมีกรอบความคิดที่จำกัด

5. ความมั่นใจในตัวเองต่ำ: คนโง่อาจรู้สึกด้อยค่าและไม่มั่นใจในตัวเอง

6. ประสบการณ์: คนโง่อาจมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างจากคนเก่ง

7. การเปรียบเทียบ: คนโง่อาจชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนเก่ง

8. สังคม: สังคมที่คนโง่เติบโตมาอาจมีค่านิยมที่ไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษา

9. ปัญหาทางจิต: คนโง่อาจมีปัญหาทางจิตบางอย่าง

10. อคติ: คนโง่อาจมีอคติต่อคนเก่ง

11. การมองโลก: คนโง่อาจมีมุมมองต่อโลกที่แตกต่างจากคนเก่ง

12. การให้ความสำคัญ: คนโง่อาจให้ความสำคัญกับสิ่งที่แตกต่างจากคนเก่ง

13. เป้าหมายในชีวิต: คนโง่อาจมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างจากคนเก่ง

14. การเลี้ยงดู: คนโง่อาจได้รับการเลี้ยงดูมาแบบที่ไม่ส่งเสริมให้คิดวิเคราะห์

15. การศึกษา: คนโง่อาจไม่ได้รับการศึกษาที่ดี

16. โอกาส: คนโง่อาจไม่มีโอกาสในชีวิตเหมือนคนเก่ง

17. ความขยัน: คนโง่อาจไม่ขยันเหมือนคนเก่ง

18. พรสวรรค์: คนโง่อาจไม่มีพรสวรรค์เหมือนคนเก่ง

19. ความโชคดี: คนโง่อาจไม่โชคดีเหมือนคนเก่ง

อย่างไรก็ตาม

1. การเหมารวม: การเหมารวมว่าคนเก่งทุกคนนั้นไม่ต่างอะไรกับคนบ้า

2. มุมมอง: มุมมองนี้เป็นเพียงมุมมองของคนโง่เท่านั้น

3. ความจริง: ความจริงแล้วคนเก่งนั้นมีคุณค่าต่อสังคม

4. ผลงาน: ผลงานของคนเก่งนั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้

5. การตัดสิน: การตัดสินคนอื่นนั้นควรพิจารณาจากหลายๆ มุมมอง